30 ส.ค. 2554

กรุงพนมเปญ 575 ปี



วิดิโอตอนแรก จะแสดงประวัติความเป็นมาของกรุงแห่งนี้ ที่เลที่ตั้ง เริ่มตั้งแต่ความคิดของยายเปญที่สร้างเนินดินสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป จนกระทั่งกษัตริย์เขมรเลือกชัยภูมิแห่งนี้เพื่อเป็นเมืองหลวง แต่ก็ยังนำชื่อของยายเปญมาใช้เป็นชื่อเมือง ผ่านไป 575 ปี กรุงนี้พบทั้งความรุ่งเรืองและความตกต่ำ ที่โดยเฉพาะช่วงเขมรแดง กรุงนี้กลายเป็นเมืองร้างเลยก็ว่าได้


ช่วงที่สองเป็นการพัฒนาหลังสมัยของพลพต สมเด็จฮุนเซ็นมาเล่าถึงการพื้นฟูนครแห่งนี้ เล่าว่าแม้แต่ตนเองไม่คิดว่ากรุงนี้จะมีการพัฒนาไปได้ไกลขนาดนี้ เพราะสภาพหลังสงครามแร้นแค้นและคิดเพียงแค่เอาชีวิตรอดไปเท่านั้น แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำให้เมืองนี้กลับมาเป็นเหมือนเดิมเท่านั้น แต่จะสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นด้วย

คนทึ่อยู่ในกรุงพนมเปญทุกระดับชนชั้นต่างก็คาดหวังว่าพนมเปญจะพัฒนาไปสู่ความรุ่งเรือง ก้าวหน้าต่อไป โดยมีการให้แนวทางในการพัฒนา 4 ประการคือ สันติภาพ ,สวัสดิภาพ ,ความสวยงาม และการพัฒนา

27 ส.ค. 2554

Sanitization : Everybody's Business



สารคดีนี้ำนำเสนอความสำเร็จของโครงการ Sanitization Market ซึ่งให้การสนับสนุนโดย USAID และธนาีคารโลก(World Bank)

แนวคิดของโครงการนี้คือ การสร้างความยั่งยืนในการพัฒนาสุขภาพอนามัยของประชาชน ที่เดิมนั้นจะใช้การแจกสุขภัณฑ์ให้กับประชาชน ซึ่งไม่ค่อยได้ผลยั่งยืนนัก เพราะประชาชนยังขาดความรู้สึกเป็นเจ้าของ โครงการนี้เลยพยามจะทำให้ประชาชนได้"ซื้อ" อุปกรณ์เหล่านี้ด้วยตนเอง

เริ่มจากการดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วม โดยเข้าไปร่วมกับผู้ประกอบการผลิตสุขภัณฑ์ในท้องถิ่น อบรมพัฒนาเกี่ยวกับการผลิตสุขภัณฑ์ที่มีราคาถูก สามารถจัดส่งได้ทันที และให้คำแนะนำเรื่องการตลาด ในขณะเดียวกันทางด้านประชาชนนั้น หน่วยงานต่างๆ ก็ได้พยามรณรงค์เกี่ยวกับความจำเป็นในการใช้สุขภัณฑ์เหล่านี้

โครงการนี้เริ่มนำร่องในจังหวัดสวายเรียงและจังหวัดกันดาล ซึ่งได้ผลดี และจะเป็นตัวอย่างแก่พื้นที่อื่นๆ ต่อไป

ลองฟังดูนะครับ ได้ฟังทั้งภาษาเขมรและภาษาอังกฤษแบบทูอินวันไปเลย

ความเห็น :
ตอนเด็กๆ น่าจะประมาณ ปี 30 ผมเคยได้ยินโครงการส้วม 100 เปอร์เซนต์ อยู่นะครับ จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า รัฐบาลไทยสมัยนั้นจัดอุปกรณ์ราคาถูกมาจำหน่ายให้ประชาชน โดยผู้ใหญ่บ้านและกำนันเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง ครั้นเวลาลงมือสร้างส้วมก็จะมีการระดมคนในชุมชนไปช่วยกัน เหมือนการลงแขกครับ

เข้าใจว่าบ้านเรานั้นเป็นการช่วยอุดหนุนโดยรัฐบาล ขณะที่โครงการข้างบนนั้นให้ภาคเอกชนมีบทบาทมากกว่า (แต่ก็ได้ยังรับความช่วยเหลือในรูปของการอบรม และให้คำแนะนำอยู่)